ในการสอบ IELTS พาร์ทการเขียนนั้นถือว่าเป็นส่วนที่ค่อนข้างยากที่สุดสำหรับเด็กไทยเลยก็ว่าได้ค่ะ บางคนสอบมาได้ผลรวมของคะแนนหรือ Overall สูงมากถึง 7.5 แต่มาตกม้าตายที่คะแนนในส่วนของพาร์ทการเขียนที่ไม่ถึงเกณฑ์ จึงทำให้ไม่สามารถนำคะแนนที่ได้ไปใช้เข้ามหาวิทยาลัยที่ตัวเองต้องการได้ เพราะส่วนใหญ่แล้วมหาวิทยาลัยจะมีกำหนดขั้นต่ำของแต่ส่วนไว้อย่างชัดเจน เช่น University of XXX requires Overall IELTS 7.0 with each bands 6.0 หมายถึงว่ามหาวิทยาลัยนี้ต้องการคะแนนรวมที่ 7.0 ขึ้นไปโดยแต่ละพาร์ทต้องไม่ต่ำกว่า 6.0 เป็นต้น ดังนั้นพี่เกรทจะมาเริ่มบอกเทคนิคในการทำ IELTS Writing Part2 สิ่งที่สำคัญมากที่สุดที่น้องๆควรจะรู้คือเกณฑ์การให้คะแนนนั้นเอง
Task response 25% การตอบให้ตรงกับคำถาม มีเหตุผลสนับสนุนที่สอดคล้อง
เช่น In some countries an increasing number of people are suffering from health problem as a result of eating too much fast food. It is therefore necessary for governments to impose a higher tax on this kind of food. To what extent do you agree or disagree with this option? คำถามนี้ให้แสดงความคิดเห็นว่าเราเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ดังนั้นเราต้องตีโจทย์ให้แตกก่อนที่เพื่อทำการแพลนเป็น My mapping คร่าวๆก่อนลงมือเขียนว่าเราจะเลือกทางไหน ถ้าสมมุติว่าเราเห็นด้วยก็ต้องมีเหตุมาชี้แจงว่าเพราะอะไร? และเหตุผลนั้นควรจะยกมาสองถึงสามเหตุผลเพื่อนำมาใช้ในการสนับสนุนคำตอบของเรา
Coherence and Cohesion 25% ลำดับการเล่าเรื่องดี
มีการแยกย่อหน้าชัดเจนในแต่ล่ะความคิดเห็น พร้อมกับมีการใช้ transitions words อย่างเหมาะสม เช่น ถ้าตรง intro เราพูดไปแล้วว่าเราเห็นด้วยนะ ย่อหน้าของเนื้อหาแรกเราสามารถใช้ First of all, Firstly ขึ้นก่อนเพื่อให้ผู้อ่านทราบว่านี้เห็นผลแรกนะที่บอกว่าเห็นด้วย เมื่อเขียนเห็นผลแรกจบแล้ว อยากขึ้นเหตุผลที่สองก็อาจจะขึ้นต้นประโยคด้วย In addition, Furthermore แล้วจบด้วยเหตุผลสุดท้ายอาจจะใช้คำว่า Last but not least หรือ Lastly ก็ได้ เมื่อเราสามารถใช้คำที่เป็น transitions words นี้ได้อย่างเหมาะสมจะทำให้คะแนนในส่วนนี้เพิ่มขึ้นได้เลยค่ะ แต่น้องๆต้องไม่ลืมว่าเรามีอีกสองส่วนที่สำคัญต่อการเขียนนั่นก็คือ
Lexical Resource 25% ใช้คำศัพท์ที่หลายหลายและเหมาะสมกับเรื่องที่เขียน สะกดคำถูกต้อง
บางคนจะใช้แต่คำศัพท์ที่ซ้ำไปมาจนทำให้ผู้อ่านเห็นว่าเราไม่มีความหลากหลายในการเขียนหรือใช้คำทั่วไปในการเขียนนั่นเอง เช่น
IT CHANGES A LOT.
IT CHANGES DRAMATICALLY.
IT HAS UNDERGONE A DRACTIC TRANSFORMATION.
IT HAS EMBARKED ON A DRAMATIC REVOLUTION.
ตามประโยคด้านบนนี้จะเห็นได้ว่าประโยคแรกนั้นจะใช้คำศัพท์ทั่วไปที่ทำให้ได้คะแนนในส่วนนี้น้อย แต่ถ้าเราสามารถเปลี่ยนคำศัพท์ทั่วไปให้หลากหลายมากขึ้นได้เหมือนประโยคสุดท้ายนี้ พี่เกรทรับรองว่าน้องๆต้องคะแนนดีอย่างแน่นอนค่ะ
Grammatical range and accuracy 25%
แน่นอนว่าเมื่อข้อสามพูดถึงความหลายหลายของการใช้คำศัพท์แล้ว ข้อสุดท้ายคงไม่พลาดการใช้รูปแบบประโยคที่หลากหลายและถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ บางคนคิดว่าใช้ Subject+verb+object นี่แหละพอล่ะก็จะทำให้พลาดคะแนนในส่วนนี้ไปฟรีเลยๆ แล้วจะทำยังไงให้ได้คะแนนเยอะหละคะ? เราจะต้องมีการดึง Complex sentence มาใช้ในการเขียนบ้างหรือเริ่มต้นประโยคด้วยวลีหรือกลุ่มคำ เป็นต้น
ดังนั้นถ้าเรารู้และเข้าใจหลักในการให้คะแนนก่อนเท่ากับว่าเราจะสามารถตรวจเช็คคำตอบของเราได้ง่ายขึ้นว่าเราควรเพิ่มหรือขาดตรงไหนหรืออีกหนึ่งส่วนที่จะช่วยให้น้องเตรียมตัวสอบ IELTS ได้ไวและพัฒนาได้จริงคือ คอร์สเรียน IELTS ที่สอนโดยผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 10 ปีติดต่อพี่เกรทสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมในการเรียนได้เลยนะคะ ^^”
ให้ GREAT-ED เป็นที่ปรึกษาและดูแลทุกเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนไปเรียนค่ะ 👇
📧 HTTP://M.ME/GREATED.TH
📞 02-648-5132
📞 097-953-8742
LINE🆔 @GREAT-ED