SOP หรือ STATEMENT OF PURPOSE เป็นส่วนสำคัญมากที่ใช้ในการสมัครเรียนปริญญาโทเพราะ SOP นี้จะเป็นเรียงความที่เขียนให้ทางมหาวิทยาลัยเข้าใจในความเป็นเรามากขึ้น  เกรดเฉลี่ยที่สูงอย่างเดียวไม่เพียงพอในการรับเราเข้าเรียนระดับปริญญาโทในมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศได้ ดังนั้นการเขียน SOP ที่ถูกต้องและเข้าใจง่ายนั้นเป็นส่วนสำคัญที่จะเพิ่มโอกาสในการตอบรับจากทางมหาวิทยาลัยที่มากขึ้นนะคะ หลายๆคนงงว่าเขียนยังไงดีอ่ะ? หนูเขียนไปเขียนมาวนไปเรื่องเดิมอีกแล้วหรือบางคนก็ไม่รู้จะเริ่มเขียนจากตรงไหนหรือเขียนแล้วจบไม่ได้ก็มี บ้างก็กลายเป็นเขียนมีแต่น้ำไม่มีเนื้อเลย วันนี้พี่ๆจะมาแนะนำวิธีการเขียนที่กระชับและให้น้องสามารถเขียนตามกันได้อย่างง่ายดายเลยค่ะ เราจะแบ่ง SOP ออกเป็น 5 ย่อหน้าด้วยกัน

ย่อหน้าที่ 1 : แนะนำทางมหาวิทยาลัยถึงจุดประสงค์และความตั้งใจที่เรามาสมัครเรียนภายในย่อหน้าแรกนี้ควรจะประกอบไปด้วย 

  • คอร์สที่เราสมัคร

  • ทำไมถึงสมัครเรียนคณะนี้

  • เรียนคอร์สนี้แล้วจะเอาไปทำอะไรในอนาคต (จุดประสงค์นั้นเอง)

ย่อหน้าที่ 2 : สรุปประวัติการเรียนของเราให้ทางมหาวิทยาลัยทราบ ภายในย่อหน้านี้ควรประกอบไปด้วย

  • วิชาที่เราเคยเรียนมาและความสนใจมากที่สุด

  • ถ้าหากน้องคนไหนมีผลงานทางวิชาการที่น่าพูดถึงสามารถดึงมาพูดในย่อหน้านี้ได้เลยค่ะ

  • หรือถ้าหากน้องคนไหนได้ GPA น้อยกว่ามาตราฐานที่มหาวิทยาลัยเปิดรับสามารถใช้ย่อหน้านี้แก้ตัวไปได้เลยค่ะเช่นอาจจะบอกว่า During my first year at university, I involved so many clubs as a freshy. It caused my GPA a little bit disappointing. However, I learnt so quickly to study harder. Then my GPA was slightly up respectively.   

ย่อหน้าที่ 3 : อธิบายต่อเนื่องว่าคอร์สที่เราสมัครนี้จะช่วยให้เราประสบความเร็จกับอาชีพในอนาคตของเราได้ยังไงบ้าง

  • จะเป็นการพูดถึงประสบการณ์การทำงาน ถ้าใครไม่มีประกบการณ์ทำงาน Fulll-time สามารถพูดถึงการฝึกงานในระหว่างเรียนก็ได้ค่ะหรือบางคนไม่เคยฝึกงานไปอีกก็สามารถพูดถึงแรงบันดาลใจต่างๆที่พบเจอมาจนทำให้เราอยากเรียนคอร์สนี้มากๆ

  • ประสบการณ์ด้านบนที่ว่านี้ช่วยในการเรียนคอร์สที่เราเลือกยังไงบ้าง เช่น I have been working in marketing agency for 4 years. Through the experience I have learnt that digital marketing is one of the important tools at the moment. Therefore it is very clear to me that accomplising a digital marketing at your university will help me the achieve my future goal easily.

ย่อหน้าที่ 4 : อธิบายเพิ่มเติมอย่างละเอียดเกี่ยวกับความสนใจทางด้านวิชาการของคอร์สนั้นๆที่เราสมัคร

ในย่อหน้านี้เป็นการบ้านของน้องๆที่ต้องเข้าไปอ่าน core module ของมหาวิทยาลัยนั้นๆว่าเค้ามีวิชาไหนที่น่าสนใจหรือมีอาจารย์คนไหนที่เราเข้าไปศึกษาข้อมูลแล้วอยากเรียนด้วยมากๆ เราก็สามารถดึงมาพูดถึงได้เลยค่ะ ในส่วนนี้จะเป็นการโชว์ให้ทางมหาวิทยาลัยให้เห็นว่าเราใส่ใจในการเข้าไปอ่านข้อมูลของมหาวิทยาลัยยูว์จริงๆนะไม่ได้หว่านสมัครไปเรื่อยอะไรแบบนี้ บางคนสงสัยว่าอ้าวพี่นี่หนูสมัครไป 5 ที่ต้องเขียนให้แตกต่างกันหมดเลยหรอ ? คำตอบคือ ใช่ค่ะถ้าหนูอยากได้ออฟเฟอร์จริงๆควรจะเปลี่ยนให้ตรงกับข้อมูลของมหาวิทยาลัยนั้นจริงๆ แต่ถามว่าไม่เปลี่ยนได้มั้ยหละ? เพราะว่าสมัครคอร์สเดียวกันมันก็มีวิชาที่เหมือนๆกันทุกที่เลย อันนี้ก็แล้วแต่ความสมัครใจของน้องๆแต่ละคนเลยน้า เช่น The Fashion marketing course at your university has been running for a many years and over time has gained a good reputation in this field as I can see from the complete university guide in 2019.

มาถึงย่อที่ 5 ย่อหน้าสุดท้ายของการเขียน : เป็นการโชว์ passion หรือความกระตือรือร้นของเราถ้าได้เข้าไปเรียนที่นี่

อาจจะพูดประมาณว่าเรามีความเชื่อมั่นว่าถ้าได้เรียนคอร์สนี้ที่มหาวิทยาลัยนี้เราจะนำความรู้,ประสบการณ์และความสามารถที่เราสะสมมาในช่วงต่างๆในชีวิตของเรามาแชร์เพิ่มพูนความรู้ให้เพื่อนร่วมห้องของเราได้เป็นอย่างดีเช่น  If I am offered a place on your university, I will try my best to contribute greatly to the course. As I promised to bring all of my knowledge about engineering experince to all my classmates as much as I can.

SOP ที่ดีนั้นควรมีความยาวประมาณ 500 – 1000 คำ ถ้าเฉลี่ยกันออกมาแล้วเราควรเขียนย่อหน้าละ 100-200 คำเท่านั้นเองค่ะ เพราะฝรั่งเนี่ยไม่เน้นความยาวในการเขียนเป็นหลักนะคะเค้าเน้นเนื้อหาและความหมายในการเขียนค่ะ จากคำแนะนำในการเขียนด้านบนนี้พี่เชื่อว่าน้องๆคงมีแนวทางในการเขียน SOP มาขึ้นนะคะ สำหรับน้องๆที่สมัครเรียนกับทาง GREAT-ED ไม่ต้องห่วงนะคะ พวกพี่มีบริการพิเศษในการตรวจและแก้ SOP ให้น้องๆทุกคนอย่างดีที่สุดเลยค่า